รอดูผลงาน!! บังยี เปิดใจหลังคืนวงการ ฟุตบอลไทย

ข่าวฟุตบอลล่าสุด วรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่งประธานบริหารของ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี สโมสร ชื่อดังจาก ไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก พร้อมเผยเป้าหมายที่มีกับทีมหลังจากนี้

  สำหรับ วรวีร์ มะกูดี ถือเป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักและเข้าใจฟุตบอลไทยเป็นอย่างดีคนหนึ่งและทำงานในวงการฟุตบอลไทยมานานกว่า 30 ปีแล้วโดยเจ้าตัวเคยเป็นทั้งอดีตผู้บริหารและคณะทำงานของ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) และ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA)  รวมถึง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ถึง 3 สมัย โดยล่าสุดเจ้าตัว เข้ามารับตำแหน่งประธานบริหารของ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี และเป็นครั้งแรกที่กลับมาเกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลไทยอีกครั้งนับตั้งแต่ แพ้เลือกตั้งให้กับ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ คนปัจจุบัน เมื่อปี 2016

ล่าสุด “บังยี” ได้เปิดใจผ่านรายการ “ลุยสนามข่าวเย็น” เอาไว้ว่า “ฟุตบอลอยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว  ที่ผ่านมาได้มีโอกาสติดตามวงการฟุตบอลไทย ทั้งเรื่องการบริหาร และการแข่งขันฟุตบอลลีก อีกทั้งในเรื่องฟุตบอลอาชีพ และฟุตบอลลีก”

“ผมเองเป็นผู้ที่ก่อตั้งและฟุตบอลลีกมาในยุคตั้งต้น และเป็นผู้ที่เริ่มต้นในการแยกองค์กรระหว่างไทยลีกและสมาคมกีฬาฟุตบอล ผมคิดว่า ผมสามารถช่วยยกระดับวงการฟุตบอลไทยได้ เพราะมีความรู้ในภาคส่วนต่างๆอยู่แล้ว”

“การมารับงานครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ ฯพณฯ สุวัฒน์ ลิปตพัลลภ ที่ได้เชิญชวนให้มารับงาน พร้อมกันนี้ยังได้เห็นศักยภาพของจังหวัดและทีมฟุตบอลของนครราชสีมา ซึ่งที่ผ่านมา เขื่อมั่นในศักยภาพของทีมว่ามีโครงสร้างที่อยู่แล้ว รวมถึงผมเอง และแต่ละฝ่าย ก็มีบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจน”

“ส่วนของผมก็จะมาช่วยด้านการบริหาร ผมก็จะนำประสบการณ์และความรู้ ก็คิดว่าน่าจะช่วยยกระดับทีมได้ดี ส่วนเป้าหมายของการเข้ามาบริหารทีมในครั้งนี้ วางเป้าพานครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ไปเป็นสโมสรระดับต้นๆของเอเชียให้ได้”

“สโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เป็นทีมที่มีแฟนบอลอยู่ในระดับต้นๆของประเทศ นอกจากนี้ ยังวางเป้าที่จะใช้คอนเนคชั่นกับบุคลากรทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่มีความถนัดในด้านเทคนิค,ด้านสิทธิประโยชน์และการตลาด เพื่อให้ทีมสวาทแคท เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และยกระดับความสำเร็จจากเดิม”

“ขณะที่ความสัมพันธ์กับทีมโค้ช ทั้ง โจ ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น และ วัชรกร อันทะคำภู รู้จักกันเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ผมเองก็จะให้อิสระในการทำงานกับโค้ช ขณะที่โค้ชเองก็มีสิทธิ์ตัดสินใจในด้านตัวผู้เล่นเต็มที่”

“สิ่งที่ผมตั้งเป้าไว้ก็คือ1.ต้องเล่นให้สนุกและประทับใจ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ส่วนความสำเร็จจะต้องมีความสำเร็จ2.สนับสนุนส่งเสริมทีมงานโค้ช และทำให้เป็นขวัญใจของคนโคราช ตามสโลแกนที่ผมคิดไว้ คือ “FAN FIRST” ดูแลครอบครัวของสวาทแคท รวมถึงการดูแลสังคม และ CSR เพื่อให้นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เป็นสโมสรที่มีแฟนบอลที่ยิ่งใหญ่ และแข็งแกร่ง”